ชื่อเรื่อง ศาสตราฉบับกรม (សត្រាច្បាប់ក្រំម្ម )
- หมวด : 08 โอวาทคำสอน
- อักษร/ภาษา : ขอม / ขอมไทย(บางคำในตอนท้าย)
- ลักษณะเอกสาร : ใบลานยาว
- จาร/บันทึก เมื่อ : พ.ศ. 2508
- จำนวนผูก/เล่ม ที่พบ : 1 ผูกเล่ม
- ลักษณะชุด : ครบชุด
- สภาพเอกสาร : ดีมาก
- ผู้แปล อาจารย์ ดร.ดิเรก หงษ์ทอง
เนื้อหาโดยสังเขปของศาสตราฉบับกรม (សត្រាច្បាប់ក្រំម្ម) สำนวนวัดปราสาทศิลาราม จังหวัดสุรินทร์
ศาสตราฉบับกรมเรื่องนี้จารเป็นภาษาเขมร โดยใช้อักษรขอมหรืออักษรเขมร ชนิดอักษรมูล (ตัวกลม) ใบลานแผ่นแรกของคัมภีร์แนะนำชื่อคัมภีร์ว่า “នែះសត្រាច្បាប់ក្រំម្ម ទុកសំរាប់វត្តប្រាសាទ (คำแปล-นี่[คือ]ศาสตราฉบับกรม ไว้สำหรับวัดปราสาท[ศิลาราม])” ต่อจากนั้น ใบลานแผ่นต่อ ๆ มา จารเรียงอักษรเขมรจากซ้ายไปขวา แผ่นละ ๕ บรรทัด โดยจารทั้งด้านหน้าและด้านหลังของแผ่นลาน และใช้เลขเขมร ๑-๔ ระบุเลขหน้าของใบลานแต่ละแผ่น
เนื้อหาของคัมภีร์เรื่องนี้กล่าวความโดยสรุปได้ว่า คัมภีร์เริ่มต้นแนะนำตัวบทว่าชื่อ “ฉบับกรม (ច្បាបក្រំម)” และได้ยกย่องคุณค่าของตัวบทนี้ว่า เป็นสิ่งประเสริฐ เพราะมีไว้ใช้สั่งสอนชนทั้งหลาย จากนั้นได้แนะนำให้ผู้ใช้คัมภีร์นี้ แสดงกิริยานอบน้อมยามหยิบใช้ เพื่อบังเกิดบุญกุศลและปัญญาตามมา ต่อมาได้เริ่มสั่งสอนสามเณรให้ประพฤติตนตามพระวินัย ไม่กระทำตนเหลวไหล ปฏิบัติตนให้สมกับที่บิดามารดานำมาบวชเรียน นอกจากนี้ คัมภีร์ยังได้สอนสามเณรให้พากเพียรเขียนอ่าน สวดเรียน ตามคำสอนของครูอุปัชฌาย์ ผู้ซึ่งดำเนินตามแนวทางของพระพุทธองค์ มีการสอนให้ยึดถือครูอุปัชฌาย์เป็นแบบอย่าง เคารพและยกย่องท่านเสมอเจ้าชีวิต รับใช้และปรนนิบัติท่านผู้เปรียบดั่งบิดามารดา และเป็นผู้นำทางสามเณรไปสู่เป้าหมายทั้งเล็กและใหญ่ หาไม่แล้ว สามเณรที่มุ่งหมายจะเรียนเองตามลำพัง จักต้องหลงทางไปได้ มิเพียงเท่านั้น คัมภีร์นี้ยังได้สอนให้สามเณรประพฤติตนตามแนวทางคำสอนที่ปรากฏในคัมภีร์ ประพฤติตนตามกฎของสงฆ์ รวมถึงให้รู้จักบุญคุณของบิดามารดาและครูอุปัชฌาย์ โดยในการสั่งสอนนี้ ยังมีการโน้มน้าวใจสามเณรให้เห็นถึงกุศลกรรมที่เกิดจากการเชื่อฟังคำสอน โดยชี้ให้เห็นผลของความพากเพียรในการปฏิบัติตามคำสอนว่า สามเณรจะบังเกิดปัญญา สามารถอุทิศบุญกุศลแด่บิดามารดา และอาจสั่งสมบุญบารมีกระทั่งนำพาญาติ ๆ ทั้งหลายดำเนินไปบนหนทางธรรมอันประเสริฐ แต่หากสามเณรเลือกสึกออกไปประกอบสัมมาชีพ ผลจากการปฏิบัติตามคำสอนดังกล่าว จะบันดาลให้มียศศักดิ์ ได้เป็นใหญ่เป็นโต และหากมีบุญได้ไปรับใช้องค์พระมหากษัตริย์ ย่อมปรากฏยศศักดิ์รุ่งเรือง ในทางกลับกัน หากสามเณรเลือกดำเนินชีวิตต่อไปบนทางธรรม ขอให้อุตสาหะพากเพียรอย่างยิ่งยวด เพื่อไปสู่เป้าหมายสูงสุด คือ พระนิพพาน
หลังจารเนื้อหาวรรณคดีคำสอนเขมรข้างต้นเสร็จแล้ว ผู้จารได้ให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการจาร เป็นภาษาเขมร โดยถ่ายทอดด้วยอักษรขอมหรืออักษรเขมร ชนิดอักษรเชรียง (ตัวเอียง) ในขนาดที่เล็กกว่าอักษรมูลซึ่งใช้จารเนื้อหาข้างต้น เนื้อหาในส่วนท้ายนี้กล่าวถึงประเด็นต่าง ๆ หลายประเด็น ดังนี้ (๑) วันที่จารเสร็จ คือ วันอาทิตย์ แรม ๕ ค่ำ เดือนสาม (มาฆมาส) ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๕๐๘ (๒) นามผู้จาร คือ อาจารย์ฌุม (๓) วัดที่จารถวาย คือ วัดปราสาทศิลาราม หมู่ ๔ ตำบลเฉนียง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ (๔) วัตถุประสงค์ของการจาร คือ ผู้จารเห็นว่า หากปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามแนวทางของคัมภีร์นี้ ศาสตราฉบับกรมเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อบุคคลนั้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต และผู้จารเลือกจารคัมภีร์เรื่องนี้ไว้เพื่อป้องกันการสูญสิ้นไป (๕) คำอธิษฐานของผู้จารทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาบาลีซึ่งมีพระนิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุด ได้แก่ การตั้งความปรารถนาให้ตนเองมีปัญญาฉลาดว่องไว เห็นแจ้งตลอดทั้งโลกียโลก และขอให้มีความสุข ปราศจากทุกข์ โรค และภัยทั้งหลายมาเบียดเบียน รวมทั้งได้อธิษฐานเป็นภาษาบาลีว่า สุทินนํ วตเม ทานัง อาสวักขยาวหัง โหตุ อนาคเต กาเล นิพพานะ ปัจจโยโหตุ
หมายเหตุ ภาษาเขมรที่พิมพ์ข้างต้นสะกดตามอักขรวิธีที่ปรากฏในใบลานต้นฉบับ ซึ่งมีวิธีเขียนที่ต่างไปเล็กน้อยจากอักขรวิธีภาษาเขมรปัจจุบัน และในการสะกดคำคำเดียวกันแต่ละแห่งในใบลานก็ไม่สอดคล้องกัน
ดาวโหลด 1. บัตรข้อมูลคัมภีร์ใบลานภาคอีสาน-ศาสตราฉบับกรม พ.ศ. 2508 วัดปราสาทศิลาราม